7 ส.ค. 63 - ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์เสนอทางออกประเทศไทย 3 ข้อ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ด้วยปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า วิกฤตรัฐธรรมนูญและวิกฤตทางการเมือง ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะได้ส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อภาวะเศรษฐกิจ ทรุดหนักจนเกิดปัญหาปากท้องประชาชน และสิทธิเสรีภาพอย่างยิ่งยวด ถึงขนาดทุกข์ยาก ทุกข์เข็ญอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและยังปรากฏว่านักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงวุฒิสมาชิกหลายคน อีกทั้งรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีเองก็ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ และสภาพของกลุ่มการเมือง เพราะสิ่งสำคัญทั้ง 2 ประการนี้ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันและนักการเมืองในขณะนี้กลายเป็นอุปสรรค ขัดขวางต่อการพลิกฟื้นและนำพาประเทศ และประชาชนให้พ้นภาวะวิกฤตเป็นอย่างยิ่งขณะนี้การแก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ได้ถูกกลุ่มที่ยกร่างรัฐธรรมนูญไว้เขียนวางหมากค่ายกลไว้จนไม่อาจแก้ไขได้ตามระบอบประชาธิปไตยอย่างปกติดังที่นานาประเทศเขาทำกัน ส.ว. ซึ่งไม่ใช่ผู้แทนปวงชนกับมีอำนาจและอิทธิพลสกัดกั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้สร้างปัญหาต่อนักการเมืองให้อยู่ในสภาวะสูญญากาศ มุ่งตักตวงผลประโยชน์และไม่เป็นตัวแทนของปวงชนอย่างแท้จริง
ไม่เพียงแต่นักเรียน นักศึกษา เยาวชนเท่านั้น แต่ภาคประชาชนทุกส่วนได้ออกมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ โดยนำเอารัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ แล้วยุบสภา ให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใต้กติกาที่เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ซึ่งทั้งสามประการนี้จะต้องกระทำโดยเร็วที่สุด
ข้าพเจ้า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะผู้แทนประชาชนต่อเนื่องมาหลายสมัย เคยได้มีโอกาสบริหารกิจการบ้านเมืองมาหลายวาระและในฐานะนักกฎหมายดุษฎีบัณฑิตทางนิติศาสตร์คนหนึ่ง และที่สำคัญคือ ข้าพเจ้าเป็นประชาชนคนไทยที่สมควรรับใช้แผ่นดินเมื่อมีโอกาส จึงขอแถลงการณ์ฉบับนี้เพื่อเรียกร้องให้ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไปโดยเร่งด่วน ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ปี 2563 ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันปี 2560 ทันที
ข้อ 2. ให้นำเอารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาใช้บังคับเป็นการชั่วคราวทันที
ข้อ 3. นายกรัฐมนตรีต้องประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วันโดยเป็นการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 จากนั้นจึงมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ถาวรต่อไป เพื่อให้เป็นรูปธรรมที่สามารถปฏิบัติได้จริง ข้าพเจ้าจะได้เสนอให้สมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้านพิจารณาเห็นชอบใน 3 ข้อ ดังกล่าว โดยการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2563 ซึ่งจะมีเพียง 3 มาตรา ดังกล่าวเท่านั้น ไม่มีเนื้อความยุ่งยากใดๆ พิจารณาเพียง 3 วันก็แล้วเสร็จ จากนั้นก็จะ นำส่งให้ผู้นำฝ่ายค้านนำขึ้นกราบบังคมทูลทรงพระราชวินิจฉัยประกาศใช้ต่อไป
ข้าพเจ้าทราบดีว่า ข้อเสนอของข้าพเจ้านี้จะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ คัดค้าน และสนับสนุนอย่างหลากหลาย และกว้างขวาง ซึ่งข้าพเจ้าก็ประสงค์เช่นนั้น และยินดีอย่างยิ่งที่จะมีนักวิชาการนักการเมือง นักประชาธิปไตย นักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชนออกมาแสดงความเห็นต่อข้อเสนอนี้ ซึ่งข้าพเจ้าขอยืนยันว่าหากเราจะได้ใช้สติไตร่ตรองให้ดีแล้วจะพบว่าประวัติศาสตร์ชาติไทยได้ถูกบันทึกว่า รัฐธรรมนูญเกือบทุกฉบับ เมื่อได้ใช้ไประยะหนึ่งก็มักจะถูกยกเลิกโดยวิธีฉีกทิ้งด้วยการปฏิวัติรัฐประหารเสมอๆ ดังเช่น เมื่อ คสช. ปฏิวัติก็ได้ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งเช่นกัน แล้ว คสช. ก็ใช้บทบาทที่ไม่มีกฎหมายใดรองรับเลย เสนอประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2557 เป็นการชั่วคราวเช่นกัน แม้ว่าบ้านเมืองขณะนี้วิกฤตยิ่งกว่าก่อนการปฏิวัติเมื่อปี 2557 แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ส่งเสริมให้มีการปฏิวัติเพื่อฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญนี้อีก แต่การออกใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันทีเพื่อยกเลิก ฉบับปี 2560 นี้แล้วนำเอาฉบับปี 2540 มาใช้ก่อนเป็นการชั่วคราวแล้วจัดการเลือกตั้ง สามารถกระทำได้ทันที
หากจะมีผู้กล่าวอ้างว่าวิธีนี้ไม่มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2560 ข้าพเจ้าขอเรียนว่าถูกต้อง เพราะมีแต่บทบัญญัติเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จึงเป็นความจริงที่ไม่มีบทบัญญัติว่าด้วยการออกรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับเดิม กรณีจึงเป็นที่แน่ชัดว่าไม่มี บทบัญญัติเขียนให้กระทำได้ แต่ก็ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้กระทำ ซึ่งย่อมต้องถือว่า กระทำได้ เพราะได้มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นี้ ไว้ในมาตรา 5 วรรคสองว่า
“เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้กระทำการนั้นหรือวินิจฉัย กรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”ดังนั้น การที่ข้าพเจ้าจะดำเนินการร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายค้านจนในที่สุดเสนอให้ท่านผู้นำฝ่ายค้านในรัฐสภานำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ปี 2563 ที่มีเพียง 3 มาตรา ขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงพระบรมราชวินิจฉัยประกาศใช้ จึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ โดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา ๕ และแน่นอนที่สุดย่อมเป็นวิธีการที่ดีกว่าและชอบธรรมกว่าการปฏิวัติแล้วฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญดังที่เมื่อปี 2557 ที่ คสช. ได้กระทำไป แล้วต่อมา คสช. ก็ทูลเกล้าประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2557 ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากเช่นกันที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีของ คสช. ที่กระทำไปเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญดังกล่าว
ข้าพเจ้าตระหนักดีและมั่นใจว่า ข้อเสนอของข้าพเจ้าดังกล่าวมานี้จะได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะนักเรียน นิสิต นักศึกษาและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งท่านมีสิทธิมีเสียงในการเลือกตั้งตัวแทนของท่านให้มาบริหารประเทศชาติ และในที่สุดแล้วพวกเราทุกคนก็จะช่วยกันนำพาประเทศชาติบ้านเมืองให้พลิกฟื้นฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวง ให้ประเทศไทยกลับเป็นอู่ข้าวอู่น้ำและทุกคนอยู่ดีกินดีได้อย่างแท้จริงโดยเร็วที่สุด.
August 07, 2020 at 11:24AM
https://ift.tt/33EjpyX
วิกฤติปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว! 'ดร.เหลิม' ร่อนแถลงการณ์เสนอนายกฯยุบสภา ร่างรธน.ฉบับใหม่ - ไทยโพสต์
https://ift.tt/2ZQAkws
Home To Blog
No comments:
Post a Comment